วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โรงพิธี และเครื่องบูชา โนราโรงครูใหญ่ฉบับโบราณ


โรงพิธี และเครื่องบูชา โนราโรงครูใหญ่ฉบับโบราณ

โรงพิธี โนราโรงครูใหญ่
                  โรงพิธี  สร้างแบบดั้งเดิม  ขนาด  9 x 11  ศอก มี 6 เสา  ไม่ยกพื้น  โดยแบ่งออกเป็น  3  ตอน  เสาตอนหน้าและตอนหลังมีตอนละ 3 เสา  ส่วนตอนกลางมี  2  เสา  ไม่มีเสากลาง  หน้าโรงหันไปทางทิศเหนือหรือใต้  เรียกว่า  ลอยหวัน(ลอยตามตะวัน)  ไม่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก  เพราะเป็นการ  ขวางหัน”  (ขวางตะวัน) ตามความเชื่อของโนราว่าเป็นอัปมงคล  



                    หลังคาทำเป็นรูปหน้าจั่ว  มุงจาก  ตรงกลางจั่วครอบด้วยกระแชง้าไม่มีกระแชงก็ใช้ใบเตยแทนการที่ต้องครอบกระแชงบนหลังคาจั่วนัยว่าเพื่อระลึกถึงนางนวลทองสำลีตอนถูกลอยแพไปในทะเลก็ได้อาศัยกระแชงเป็นเครื่องมุงแพ  ชาวบ้านบางแห่งยังเชื่อว่าโรงพิธีจะมีผีนางโอกะแชงรักษาเสาโรงทั้ง 6 ต้น และรักษากระแชงมุงหลังคาโรงทั้งด้านซ้ายขวาเรียกว่า  นางโอกะแชงสองตอนด้านหลังของโรงพิธีทำเป็นเพิงพักของคณะโนรา  ด้านขวาหรือด้านซ้ายของโรงทำเป็นศาลสูงระดับสายตาสำหรับเป็นที่วางเครื่องบูชา เรียกว่า  ศาล”  หรือ  พาไล”  พื้นโรงปูด้วย  สาดคล้า”  (เสื่อสานด้วยคล้า)  แล้วปูทับด้วยเสื่อกระจูด วางหมอนปูผ้าขาวทับ  เรียกว่า  สาดหมอน”  บนหมอนวางไม้แตระและไม้กระดาน  หรือเทียนติดเชิง  เรียกว่า  เทียนครูหรือ  เทียนกาศครู”  โรงพิธีอาจจะตกแต่งด้วยผ้า  กระดาษสี  ธงชายและสิ่งของอื่น ๆ อีกก็ได้ อุปกรณ์ในการประกอบพิธีที่สำคัญได้แก่ผ้าเพดานบนศาลหรือพาไล  ผ้าเพดานใหญ่ในโรงพิธี  ที่วางเทริดเสื่อหมอน เครื่องเชี่ยนพิธี  หม้อน้ำมนตร์  ไม้หวาย  มีดหมอ  บายศรีเล็กหรือบายศรีปากชาม  บายศรีใหญ่หรือบายศรีท้องโรง ดอกไม้  ธูปเทียน  หอกแทงจระเข้  หยวกกล้วยทำรูปจระเข้  ใบชิงหรือกระแชง  ขันลงหิน  หน้าพรานชายหญิง  เทริด ย่าม  ธนู  เชือกคล้องหงส์  เครื่องแต่งตัวโนรา  หญ้าคา  หญ้าครุน  ใบเฉียงพร้า  ใบหมากผู้  เงินเหรียญ  รวงข้าว มีดโกน  หินลับมีด  พระขรรค์  หนังสือ  หนังหมี  สำหรับที่วางหม้อน้ำมนตร์อาจจะทำด้วยไม้ไผ่สานเป็นตะกร้า ทรงสูงเรียกว่า  ตรอม


เครื่องบูชา โนราโรงครูใหญ่
                      เครื่องบูชาประกอบพิธีจัดเป็น  2  ส่วน  คือ  เครื่องบูชาถวายครูบนศาลกับเครื่องบูชาที่ห้องโรง  (ที่พื้นกลางโรง)  เครื่องบูชาบนศาลประกอบด้วย  หมาก  9  คำ  เทียน  9  เล่ม  เครื่องเชี่ยน  1  สำรับ  กล้วย  3  หวี  อ้อย  3  ท่อน  ขนมในพิธีวันสารทเดือน  10  หรือวันชิงเปรต  ได้แก่  พอง  ลา  ขนมบ้า  ขนมเบซำ  ขนมเทียน  3  สำรับ  ข้าวสารพร้อมหมากพลู  เทียน  จัดลงในภาชนะที่สานด้วยกระจูดหรือเตยขนาดเล็กเรียกว่า  สอบนั่ง”  หรือ  สอบราด”  3  สำรับ  มะพร้าว  3  ลูก  เครื่องคาวหวานหรือที่  12  จำนวน  12  สำรับหรือ  12  ชนิด  เสื่อ  1  ผืน  หมอน  1  ใบ  ผ้าขาว  1  ผืน  ผ้านุ่งห่มชาย  1  ชุด  ผ้านุ่งห่มหญิง  1  ชุด  บายศรีปากชาม  1  ปาก  หน้าพรานชาย  หน้าพรานหญิง  ที่เรียกว่า  หัวอีทาสี”  อย่างละหน้าเป็นอย่างน้อย  เทริดตามจำนวนปีที่กำหนดว่าให้ทำพิธีครั้งหนึ่ง  เช่น  ถ้าทำพิธี  7  ปีต่อครั้ง  ก็ใช้เทริด  7  ยอด  ถ้าหาเทริดได้ไม่ครบก็ใช้ใบเตยทำเป็นรูปเทริดแทนได้  ที่เพดานศาลหรือพาไลผูกผ้าดาดเพดาน  ใส่หมากพลู  1  คำ  ดอกไม้  3  ดอก  เทียน  1  เล่ม  และข้าวตอก  3  เม็ด  บนศาลหรือพาไลใต้ผ้าดาดเพดาน  ปูผ้าขาวบนหมอน  วางหัวพราน  หัวทาสี  ปักเทียนไว้ที่หน้าพราน  มีไม้แตระวางไว้  หน้าเทียนวางเครื่องเชี่ยนหม้อน้ำมนตร์  เทริด  บายศรี  และเครื่องสังเวยที่เป็นของแห้ง  ใส่สำรับวางไว้ตลอด  3  วัน  ส่วนอาหารคาวหวานและที่  12  ต้องเปลี่ยนทุกวัน  ทุกสำรับปักเทียนเอาไว้  นอกจากนี้ยังมี  ราด”  คือเงินกำนลมี  3  บาท  หรือ  12  บาท  ส่วนเครื่องบูชาที่ท้องโรงประกอบด้วยธูปเทียน  9  ชุดติดไม้เป็นแพวางบนหมอนซึ่งวางไว้กลางโรง  และบายศรีท้องโรง  1  สำรับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก/  เว็บไซต์โนราโรงครู
ขอขอบคุณรูปแต่งโดย/ โนราบรรดาศักดิ์  พิทักษ์ศิลป์
ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้โดย/  โนราบรรดาศักดิ์  พิทักษ์ศิลป์
เมื่อวันที่  ๑๕/๐๖/๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น