โนรานาฏศิลป์แห่งการรำที่มีเอกลักษณ์มาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปี
โนราเป็นนาฏศิลป์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาศิลปะการแสดงของภาคใต้
มีความยั่งยืนมานับเป็นเวลาหลายร้อยปี การแสดงโนราเน้นจะเน้นการร้อง การรำ
บางส่วนเล่นเป็นเรื่อง และบางโอกาสมีบางส่วน แสดงตามคติความเชื่อที่เป็นพิธีกรรม
ต่อมาได้นำเรื่องราวจากวรรณคดีหรือนิทานท้องถิ่นมาใช้ในการแสดงเรื่อง
พระสุธนมโนห์รา
เป็นเรื่องที่มีอิทธิพลต่อการแสดงมากที่สุดจนเป็นสาเหตุให้เรียกการแสดงนี้ว่า
มโนห์รา
ส่วนกำเนิดของโนรานั้นสันนิษฐานกันว่าได้รับอิทธิพลจากการร่ายรำของอินเดียโบราณก่อนสมัยศรีวิชัย
ที่มาจากพ่อค้าชาวอินเดีย ได้มาากเครื่องดนตรีที่ เรียกว่า
เบ็ญจสังคีตซึ่งประกอบโหม่งฉิ่ง ทับ กลอง ปี่ ใน ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีโนรา
และท่ารำของโนรา ที่มีท่าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับการร่ายรำของทางอินเดีย
และโนราเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อประมาณปี พุทธศักราช 1820 ซึ่งตรงกับสมัยสุโขทัยตอนต้น
ตามตำนานของชาวใต้เกี่ยวกับกำเนิดของโนรา
มีความเป็นมาหลายตำนานเช่น ตำนานโนรา จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุง
มีความแตกต่างกันตามชื่อที่ปรากฏในเรื่องและเนื้อเรื่องบางตอน ทั้งนี้อาจสืบเนื่องมาจาก
ความคิด ความเชื่อ และวิธีสืบทอดที่ต่างกัน
จึงทำให้รายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละตำนานแตกต่างกันไป
เกี่ยวกับท่ารำโนรา
ท่ารำโนรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ผู้ที่ฝึกหัดนาฏศิลป์ของภาคกลางแล้วจะรำท่าของโนราไม่สวย เพราะการทรงตัว
ตั้งวงหรือลีลาต่างๆ แตกต่างกันผู้ที่จะรำโนราได้สวยงามจะต้องมีพื้นฐานการทรงตัว
ดังนี้
ช่วงลำตัว จะต้องแอ่นอกอยู่เสมอ หลังจะต้องแอ่นและลำตัวยื่นไปข้างหน้าไม่ว่าจะรำท่าไหนหลังจะต้องมีพื้นฐานการวางตัวเช่นนี้เสมอ
ช่วงวงหน้า วงหน้า หมายถึง ส่วนลำคอกระทั่งศีรษะ จะต้องเชิด/แหงนขึ้นเล็กน้อยในขณะรำ
ช่วงหลัง ส่วนก้นจะต้องงอนเล็กน้อย
การย่อตัว เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การรำโนรานั้นลำตัวหรือทุกส่วนจะต้องย่อลงเล็กน้อย นอกจากย่อลำตัวแล้วเข่าจะต้องย่อลงด้วย
ช่วงลำตัว จะต้องแอ่นอกอยู่เสมอ หลังจะต้องแอ่นและลำตัวยื่นไปข้างหน้าไม่ว่าจะรำท่าไหนหลังจะต้องมีพื้นฐานการวางตัวเช่นนี้เสมอ
ช่วงวงหน้า วงหน้า หมายถึง ส่วนลำคอกระทั่งศีรษะ จะต้องเชิด/แหงนขึ้นเล็กน้อยในขณะรำ
ช่วงหลัง ส่วนก้นจะต้องงอนเล็กน้อย
การย่อตัว เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง การรำโนรานั้นลำตัวหรือทุกส่วนจะต้องย่อลงเล็กน้อย นอกจากย่อลำตัวแล้วเข่าจะต้องย่อลงด้วย
เกี่ยวกับเครื่องดนตรีโนรา
- ทับ
(โทนหรือทับโนรา) เป็นคู่เสียงต่างกันเล็กน้อย
ทำหน้าที่คุมจังหวะและเป็นตัวนำในการเปลี่ยนจังหวะทำนอง
แต่จะต้องเปลี่ยนตามผู้รำไม่ใช่ผู้รำเปลี่ยนจังหวะลีลาตามดนตรี ผู้ทำหน้าที่ตีทับจึงต้องนั่งให้มองเห็นผู้รำตลอดเวลา
และต้องรู้เชิง ของผู้รำ
- กลอง
เป็นกลองทัดขนาดเล็ก ทำหน้าที่เสริมเน้นจังหวะและล้อเสียงทับ
- ปี่
เป็นเครื่องเป่าเพียงชิ้นเดียวของวง นิยมใช้ปี่ใน หรือ บางคณะอาจใช้ปี่นอก
ใช้เพียง ๑ เลา ปี่มีวิธีเป่าที่คล้ายคลึงกับขลุ่ย ปี่มี ๗
รูแต่สามารถกำเนิดเสียงได้ ถึง ๒๑ เสียงซึ่งคล้ายคลึงกับเสียงพูด มากที่สุด
- โหม่ง คือ
ฆ้องคู่ต่างกันที่เสียงแหลม เรียกว่า ”เสียงโหม้ง” ที่เสียงทุ้ม เรียกว่า “เสียงหมุ่ง” หรือ บางครั้งอาจจะเรียกว่าลูกเอกและลูกทุ้มซึ่งมีเสียงแตกต่างกันเป็น
คู่แปดแต่ดั้งเดิมแล้วจะใช้คู่ห้า
- ฉิ่ง
เป็นเครื่องตีเสริมแต่งและเน้นจังหวะ ซึ่งการตีจะแตกต่างกับการตีฉิ่ง
ในการกำกับจังหวะของดนตรีไทย
- กรับ มี
ทั้งกรับอันเดียวที่ใช้ตีกระทบกับรางโหม่ง หรือกรับคู่และมีกรับพวง
หรือใช้เรียวไม้หรือลวด เหล็กหลาย ๆ อันมัดเข้าด้วยกันตีให้ปลายกระทบกัน
-------------
ขอขอบคุณที่มาของเนื้อหา // เว็บไซต์โนราภคใต้
สืบค้นและรวบรวมข้อมูลโดย // โนราบรรดาศักดิ์ พิทักษ์ศิลป์
สืบค้นและรวบรวมข้อมูลโดย // โนราบรรดาศักดิ์ พิทักษ์ศิลป์
ศึกษาข้อมูลดังกล่าวเมื่อวันที่
๑ มกราคม ๒๕๕๖
เอื้อเฟื้อพื้นที่ประกาศ //http://krunora.blogspot.com/
เอื้อเฟื้อพื้นที่ประกาศ //http://krunora.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น