วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การร้องกลอนทอย ศิลปะทางนาฎลักษณ์ของบทกลอนโนราภาคใต้


การร้องกลอนทอย ศิลปะทางนาฎลักษณ์ของบทกลอนโนราใต้
     •    ความสำคัญ ใช้ในการละเล่นโนรา
     •    เนื้อหา กลอนทอย : เป็นกลอนในรูปแบบอย่างหนึ่ง ในการขับบทร้องโดยเฉพาะของโนราห์เป็นลักษณะของกลอนคู่ 
     •    ลักษณะ  โดยมีการบังคับฉันทลักษณ์ได้ดังนี้

(ตัวอย่างกลอนทอย) ไม่รักพี่ไม่มาหา ที่พี่มาเพราะหวงแหนหวงแหน
เป็นตายให้ได้แนบแน่น น้องอย่าผลักให้หักราบหักราบ
ตัวพี่นี้เปรียบเหมือนบด ไหนจะอด ซึ่งรสหวานรสหวาน
ตัวน้องนี้คือน้ำตาล คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันแคล้วกัน "
           - กลอนทอยทุกบาท สองคำสุดท้ายของบาทจะซ้ำกับสองคำหน้าที่อยู่ติดกันเสมอดั่งตัวอย่าง
(แผนผังบังคับฉันทลักษณ์ของบทกลอน อาจจะยักย้าย) จากที่แสดงไว้ได้อีกแบบหนึ่งคือคำสุดท้ายของแต่ละบาทสัมผัสต่อเนื่องกันไป เมื่อจบคำสัมผัสจึงเปลี่ยนมาสัมผัสจากคำสุดท้ายของบาทเอกไปยังค่าสุดท้ายของวรรคแรกในบาทโท
(ดังตัวอย่าง) " ทุกวันโลกมันผันแปร ไม่ว่าแลไปทางไหนทางไหน
สมัยก่อนคนยึดพระธรรม์ คนทุกวัน ไม่เป็นไรไม่เป็นไร
ขาดผิวเพื่อนฝูงไม่ว่า ขาดเงินตรา ต้องช้ำใจต้องช้ำใจ
มีเงินเขานับเป็นพี่น้อง ถ้าได้ทอง เอาเข้าไปเอาเข้าไป
คนร่ำรวยทำชั่วไม่ปรือ เขาไม่ถือ ที่จัญไรจัญไร
กฎหมายไว้ขู่คนยาก รวยมามาก กลัวอ้ายไทรอ้ายไทร
คิดคิดหงุดหงิดใจ ชักไม่ไหว แล้วไทยแลนด์ไทยแลนด์"
           - การร้องกลอนทอย ที่มีลักษณะการร้องคู่กัน เรียกว่า "โยนกลอน" หวังทำนองให้อารมณ์สนุกสนาน การซึ่งคำในตอนท้ายจึงมีผลทำให้จังหวะและน้ำเสียงของผู้นิยมชัดเจน การ้องแบบนี้แม่เพลงจะเป็นแบบยุดโต (กลอนสด) ทีละบาท โดยนับตามทุกท้อยคำ ๑ เที่ยว เช่น (แม่เพลง) ไม่รัดพี่ไม่มาก ที่พี่มา เพราะหวงแหนหวงแหนแต่บางครั้งราวร้องตามแม่เพลง

ขอขอบคุณที่มา : เว็บไซต์ฐานข้อมูลทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
ศึกษาและต้นคว้าข้อมูลโดย : โนราบรรดาศักดิ์  พิทักษ์ศิลป์
ขอขอบคุณรูปจาก การท่องเที่ยวและกีฬา
เมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๖
http://krunora.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น