วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การพัฒนาหนังตะลุงและโนราในฐานะสื่อพื้นบ้าน บริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา

การพัฒนาหนังตะลุงและโนราในฐานะสื่อพื้นบ้าน
บริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
                           โนรา การพิจารณาลักษณะการเปลี่ยนแปลงของโนราในยุคที่ 4 (ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2526 ถึงปัจจุบัน) ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สืบเนื่องมาแล้วตั้งแต่ยุคที่ 3 ทั้งรูปแบบเนื้อหา ขนบนิยมในการแสดง องค์ประกอบในการแสดง ความเชื่อ 

(ภาพโนราพิธีกรรมโรงครู)

                           ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง การปรับตัวของศิลปินและชุมชน ในกรณีของโนราพบว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแบบหนังตะลุง ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของโนราเป็นเพียงการปรับปรุงการแสดงให้เหมาะสมกับงานที่รับไปแสดงหรือปรับตามความต้องการของเจ้าภาพที่จะให้เน้นการร่ายรำโนราแบบโบราณไม่เน้นการแสดงเรื่องหรือนวนิยาย และดนตรีลูกทุ่ง หรือต้องการให้แสดงแบบสมัยใหม่ มีดนตรีลูกทุ่ง มีนักเต้นประกอบเพลงหรือหางเครื่องอย่างครบครัน โนราก็สามารถตอบสนองได้ เช่น โนราสมพงษ์น้อย ดาวรุ่ง จะมีงานแสดงตามที่ต่าง ๆ หรืองานประจำปีของทางราชการในลักษณะการรับเหมางานกับเครือบริษัทที่สังกัด ได้ปรับรูปแบบการแสดงของคณะเช่นเดียวกับวงดนตรีลูกทุ่ง โดยเจ้าภาพงานไม่ต้องดำเนินการ เช่น ฝ่ายเวที ฝ่ายจัดเก้าอี้ ที่นั่ง ฝ่ายแสงเสียง ฝ่ายเก็บบัตรค่าเข้าชม ฝ่ายวงดนตรีนักร้อง ฝ่ายนางรำและผู้แสดง เมื่อเริ่มแสดงก็จัดขั้นตอนตามลำดับขั้นดังนี้คือ กาศครู (ครูหมอโนรา) ปล่อยนางรำเป็นชุดรำแบบโบราณ แสดงเรื่องแล้วต่อด้วยการแสดงดนตรี จนถึงเวลา 02.00 น. จบการแสดง

(ภาพโนราพิธีกรรมโรงครู)

                           การเปลี่ยนแปลงของโนราจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านองค์ประกอบของการแสดงและขั้นตอนในการแสดง เช่น การเพิ่มจำนวนผู้ร้าโนราที่เป็นชุดนางรำให้มากขึ้น นำเอาการร่ายรำแบบโบราณ เช่น รำยั่วปี่ยั่วทับ รำขอเทริด รำท้าบท มานำเสนอในบางส่วนด้วย นอกจากนั้นเป็นการเพิ่มอุปกรณ์แสง สี เสียง บนเวทีให้ยิ่งใหญ่และทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโรงที่เป็นโรงสำเร็จ รูปแบบเวทีการแสดงคอนเสิร์ตหรือเวทีของวงดนตรีลูกทุ่ง ในขณะที่โนราอีกกลุ่มหนึ่งจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงไปตามสภาพของงาน เช่น งานประจำปี หรืองานที่เกี่ยวเนื่องกับการอนุรักษ์ และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม การแสดงก็จะเน้นที่การร่ายรำ การทำบท ว่ากลอนมุตโตตามแบบฉบับ โดยไม่เน้นที่การแสดงเรื่องและวงดนตรี แต่หากเป็นงานสวนสนุกหรืองาน 136 ประจำปี งานจัดรายการของนักธุรกิจบันเทิง โนรากลุ่มนี้ก็สามารถว่าจ้างวงดนตรี นางร้าหรือสับเปลี่ยนกับคณะอื่นได้ และพบว่าโนราบางคณะที่ยุบเลิกคณะของตนเอง โดยเฉพาะนายโรงโนรายังไปรำหรือแสดงแทนให้กับโนราคณะอื่น ๆ ที่ยังทำการแสดงอยู่โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสังกัดคณะ เพียงแต่รับค่าตอบแทนเป็นรายคืนหรือตามที่ตกลงกันไว้ในการแสดงหรือการร่ายรำในแต่ละครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงและความนิยมของประชาชนที่มีต่อโนราคนนั้น ๆ ที่เข้าไปร่วมกับโนราคณะต่าง ๆ ดังที่กล่าวแล้ว ประเด็นดังกล่าวทำให้เรามองเห็นโครงสร้างของสังคมปัจจุบันที่มีลักษณะแยกส่วน เกิดกลุ่มวิชาชีพในลักษณะเฉพาะ เช่น กลุ่มนักดนตรี นักรำ นักแสดง หรือทำงานแยกสาขา แล้วเข้าทาทำหน้าที่ตามบทบาทของตน แม้แต่การแสดงโนราก็มองเห็นภาพโครงสร้างของสังคมปัจจุบันได้อย่างชัดเจน ในกรณีการดำรงอยู่ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง การปรับตัวของศิลปินและชุมชน เพราะต่างรับรู้ว่าการที่จะยืนหยัดเพื่อต้านกระแสความเปลี่ยนแปลงทางสังคมย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการพัฒนาและความเจริญทางเทคโนโลยีและการเข้ามาของวัฒนธรรมการบริโภคและสื่อสมัยใหม่ในสังคมชนบทท้าให้ท้องถิ่นและชุมชนขาดความเป็นอิสระและต้องพึ่งพาจากภายนอก ในทางวัฒนธรรมเขาไม่สามารถผลิตและดำรงวัฒนธรรมของเขาเองได้ ต้องพึ่งพาวัฒนธรรมที่คนในเมืองเป็นผู้กำหนด (โดยเอาอย่างฝรั่ง) ไม่ว่าการแต่งกาย การกินอาหาร ความบันเทิงและความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ วัฒนธรรมประเพณีแบบดั้งเดิมสลายตัวลง ระบบค่านิยมแบบเก่าก็สูญหายไป สินค้าที่ถูกโฆษณาอย่างบ้าคลั่งจึงเข้ามาเป็นค่านิยมของชุมชนแทนที่ (นิธิ เอียวศรีวงศ์. 2513 : 13) และ/หรือวิทยาการทุกแขนงพัฒนาโดยอาศัยทฤษฎีจากตะวันตก ขาดความรู้จักตัวเองเป็นฐานเชื่อมโยงความเจริญทางเทคโนโลยีและวัตถุทั้งปวงที่ทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนฐานะจากผู้ผลิตมาเป็นผู้บริโภค ค่านิยมของสังคมเมืองเข้าไปทำลายค่านิยมเก่าของสังคมชนบท อันเป็นภาพปรากฏของการเสื่อมสลายหรือการเปลี่ยนแปลงของสื่อพื้นบ้านในปัจจุบัน เช่นเดียวกับโนรา การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงรูปแบบของตนให้เข้ากับยุคสมัยและเท่าทันกระแสสังคมเท่านั้น จึงจะสามารถดำรงสถานภาพของความเป็นโนราหรือสื่อบันเทิงท้องถิ่นเอาไว้

(ภาพโนราพิธีกรรมโรงครู)

                           อย่างไรก็ตามผู้วิจัยมีข้อสังเกตว่าความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างหนังตะลุงและโนรามีข้อแตกต่างกัน ประการแรกคณะโนรามีจ้านวนคณะน้อยกว่าคณะหนังตะลุงในขณะที่ชุมชนขยายตัวและมีกิจกรรมบันเทิงมากขึ้น จึงท้าให้โนราสามารถดำรงอยู่ได้ระดับหนึ่ง ประการที่สององค์ประกอบในการแสดงโนราสามารถปรับตัวหรือมีความยืดหยุ่นในตัวเองสูง ในระยะเวลาเดียวกันโนราสามารถน้าเสนอทั้งรูปแบบเก่าและรูปแบบใหม่ได้พร้อมกันโดยมีเงื่อนไขของงานหรือเจ้าภาพที่รับไปแสดงเป็นตัวกำหนด ในช่วงที่วงดนตรีลูกทุ่งเป็นที่นิยม โนราก็สามารถสนองตอบค่านิยมของผู้ชมได้ ครั้นความนิยมในเรื่องดนตรีลูกทุ่งตกต่ำ โนราก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงได้ในตัวเอง และมีการน้าเสนอได้อย่างหลากหลายในเวลาเดียวกัน ในขณะที่การแสดงหนังตะลุงมีข้อจ้ากัดบางอย่างตามประเภทหรือชนิดของศิลปะบันเทิง ประการที่สามซึ่งนับว่าเป็น137

(ภาพโนราพิธีกรรมโรงครู)

                           ฐานรองรับที่สำคัญต่อการดำรงอยู่ของโนราคือ ความเชื่อในเรื่องครูหมอตายายโนราและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับโนรา มีผลโดยตรงต่อตัวศิลปินที่ต้องสืบทอดการแสดงโนรา หรือรักษาความเป็นโนราเอาไว้ ในขณะเดียวกันชุมชนนิยมหนังตะลุงและโนราก็มีความเชื่อเรื่องเดียวกัน การประกอบพิธีกรรมดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ชุมชนบริเวณลุ่มทะเลสาบสงขลา และบริเวณจังหวัดใกล้เคียง เราจึงพบว่า โนราอาวุโสที่ไม่ได้แสดงโนราเพื่อความบันเทิงเป็นอาชีพ แต่ยังคงมีบทบาทหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรมแก้บนและการร้าโนราโรงครูทั้งที่เกี่ยวข้องกับผู้มีเชื้อสายโนราโดยตรงและชาวบ้านที่นับถือครูหมอตายายโนรา อย่างไรก็ตามพัฒนาการหรือการเปลี่ยนแปลงก็ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ดังที่ ประหยัด เกษม (2523 : 137) กล่าวไว้ว่า การแสดงโนราในปัจจุบันนับเป็นการค้าประเภทหนึ่ง ซึ่งมีผู้ยึดเป็นอาชีพ การยึดเป็นอาชีพก็ต้องหวังเพื่อให้มีเงินพอใช้ในการเลี้ยงชีวิต การจะมีเงินพอใช้ก็จะต้อง มีคนนิยม จึงจ้าเป็นที่โนรา (รวมทั้งหนังตะลุงด้วย - ผู้วิจัย) จะต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงการแสดงของตนไปตามยุคตามความต้องการของสังคมเพื่อความอยู่รอดของ ตน การที่โนราเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นการปรับตัวที่ท้าให้สามารถคงอยู่ในโลกบันเทิงนี้ อีกต่อไปได้ หากไม่มีการ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ก็ไม่แน่ว่าจะมีโนราให้ดูเช่นนี้อีก หรือไม่ และเป็นที่น่ายินดียิ่งที่สถาบันการศึกษาหลายแห่ง ทั้งระดับประถม มัธยม และ อุดมศึกษา รวมทั้งวิทยาลัยนาฏศิลป์นครศรีธรรมราช (วิทยาลัยนาฏศิลป์พัทลุง ผู้วิจัย) ซึ่งเป็นสถาบันที่ควรรักษาศิลปะการร้านี้ได้เปิดฝึกสอนการร้าโนราตามแบบโบราณ โดย จ้างโนราที่มีชื่อเสียงมาสอน นับเป็นวิธีการอนุรักษ์ศิลปะการรำโนรา ไว้อย่างน่า สรรเสริญและควรสนับสนุนอย่างยิ่งอนุรักษ์ศิลปะการรำโนรา ไว้อย่างน่า สรรเสริญและควรสนับสนุนอย่างยิ่ง

ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลอันมีประโยชน์จาก
รายงานการวิจัยเรื่อง การพัฒนาหนังตะลุงและโนราในฐานะสื่อพื้นบ้าน บริเวณลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
นายพิทยา บุษรารัตน์    นางสาวอารยา ดำเรือง   นายรัชการ วิชชุรังศรี   นายครื่น มณีโชติ
สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ
งานวิจัยนี้ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากงบประมาณแผ่นดิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น